ร้านข้าวเม่าข้าวฟ่าง อ.แม่สอด จ.ตาก

     ครั้งนี้ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม(www.Thongteaw.com)ของเรามาไกลถึง อ.แม่สอด จ.ตากซึ่งเป็นที่ตั้งของพระธาตุดอยหินกี่อันงดงามแปลกตา วัดไทยวัฒนารามศูนย์รวมศิลปะแบบพม่า และตลาดริมเมยอันโด่งดัง นอกเหนือไปจากนี้แม่สอดยังเป็นอำเภอซึ่งเป็นจุดแวะพักสำคัญก่อนเดินทางไปยังตัว อ.อุ้มผาง เพื่อชมน้ำตกทีลอซูอันยิ่งใหญ่อีกด้วย และ ณ อำเภอแม่สอดนี่เองที่ทีมงานของเราได้มีโอกาสพบกับร้านอาหารบรรยากาศดีมากๆ อร่อย แถมยังไม่แพงอีกด้วย จึงเก็บเอามาเล่าสู่ให้ทุกๆท่านอ่านกันในครั้งนี้
     ร้านข้าวเม่าข้าวฟ่าง คือ สวนอาหารขนาดใหญ่ที่มีบรรยากาศร่มรื่น ปกคลุมไปด้วยแมกไม้ใหญ่นานาพันธุ์ ดอกไม้กล้วยไม้หลากชนิด บางส่วนตกแต่งด้วยรากและตอไม้ซึ่งตายแล้ว พื้นที่บางส่วนก็รายล้อมไปด้วยสระบัว น่าจะเป็นร้านอาหารประเภทสวนอาหารที่ตกแต่งร้านได้สวยที่สุดเท่าที่ทีมงานได้เคยแวะเวียนไปรับประทานมาเลยทีเดียว(ประทับใจบรรยากาศร้านมากๆ)

บริเวณสวนภายในพื้นที่ร้านข้าวเม่าข้าวฟ่าง

ที่นั่งภายในร้านข้าวเม่า ข้าวฟ่างในบริเวณต่าง ๆ

สระน้ำภายในร้าน เจ้านก??!! กับดอกไม้งาม ๆ ในสวน

     หลังจากหย่อนบั้นท้ายลงที่โต๊ะเรียบร้อยและเริ่มเปิดดูรายการอาหารก็พบว่าราคาอาหารนั้นไม่แพงอย่างที่จินตนาการไว้(บรรยากาศร้านอย่างหรูเลยทำให้คิดว่าอาหารน่าจะแพงครับ)ทำให้รู้สึกปลื้มสุดๆ.........ว่าแล้วก็เริ่มลงมือสั่งอาหารทันที



1.ผัดกูดผัดกะปิ เนื่องจากวันนี้ทางทีมงานตั้งใจว่าอยากจะสั่งอาหารในลักษณะของเมนูกึ่งสุขภาพดูบ้างจึงเปิดตัวด้วยผักกูดผัดกะปิจานนี้ โผล่มาจานแรกก็ต้องขอชมเชยเลยครับว่าอร่อยมากๆกับผักกูดจานใหญ่ผัดใส่กะปิ ,กระเทียมและพริกสดสดรสกรอบหวานไม่เหนียวเคี้ยวง่ายซึ่งเรามั่นใจว่าคนสูงอายุชีพใกล้วางวายก็ยังสามารถรับประทานผัดผักจานนี้ได้อย่างเอร็ดอร่อยแน่นอน(หากไม่แพ้กะปินะครับ) ระหว่างรออาหารรายการอื่นเราทานกันไปเพลินๆจนเกือบหมดจานเลย ราคาของผักกูดผัดกะปิจานใหญ่นี้ก็อยู่ที่เพียงแค่ 80 บาทเท่านั้นเอง







2.หมูข้าวเม่า หนึ่งในอาหารจานเลื่องชื่อของร้านข้าวเม่าข้าวฟ่างซึ่งนำหมูไปหมักกับข้าวสุกให้รสออกอมเปรี้ยวเล็กน้อยคล้ายๆกับแหนม นำมาทอดแล้วคลุกเคล้ากับข้าวเม่า ,ถั่วลิสงทอด ,พริกแห้งทอด ทานพร้อมกับเครื่องเคียงเป็นกระเทียมสด ,หอมแดง ,มะนาวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ หากอยากได้รสแซ่บอีกหน่อยก็อาจทานพร้อมพริกขี้หนูหรือต้นหอมที่มีไว้แกล้มอยู่ข้างๆหรือหากเผ็ดร้อนเกินไปก็เติมผักชีฝรั่ง หรือผักกาดหอมเข้าไปให้รสชาติกลมกล่อมขึ้นอีกหน่อยก็อร่อยไม่หยอกทีเดียว สมแล้วที่ได้เป็นอาหารขึ้นชื่อของร้าน ส่วนราคานั้นก็อยู่ที่ 90 บาทกับจานอร่อยจานนี้

3.หมูข้าวฟ่าง (รูปบนซ้ายมือ) อีกหนึ่งเมนูเด็ดชื่อดังของร้านที่นำเนื้อหมูหั่นเป็นเส้นสั้นๆคลุกเคล้ากับแป้งชุบทอด ,เกล็ดขนมปังและมะพร้าวขูดฝอยนำไปทอดให้เหลืองทองอร่าม จิ้มกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะซึ่งมีรสชาติคล้ายน้ำสลัดเธาซันด์ไอส์แลนด์ผสานกับมายองเนส หรือหากไม่ชอบจิ้มน้ำจิ้มก็สามารถเลือกทานเปล่าๆได้หอมอร่อยไม่แพ้กัน ขณะกัดเข้าไปในชิ้นหมูชุบนั้นคุณจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆของมะพร้าวขูดลอยตลบอบอวลอยู่ในปากเนิ่นนาน เป็นรสสัมผัสอันสุดยอดจนทีมงานของเราลงมติเป็นเอกฉันท์ขอยกจานนี้ให้เป็นอันดับหนึ่งในดวงใจจากเมนูสุดประทับใจทั้งหมด 5 รายการในวันนี้กันไปเลย สำหรับราคานั้นบอกได้คำเดียวว่ารู้แล้วต้องอึ้ง คือ 90 บาทเท่านั้น ถือว่าถูกสุดๆกับความอร่อยระดับเทพเยี่ยงนี้

4.แกงแคไก่นา (รูปบนขวามือ) หากใครที่คิดว่าขึ้นชื่อว่าแกงแคแล้วจำเป็นต้องใส่ดอกแคแล้วละก็ขอบอกว่าคุณอาจคิดผิดไปถนัดใจ แกงแคเป็นแกงพื้นบ้านของทางภาคเหนือรสชาติคล้ายแกงป่าของภาคกลาง มีเครื่องแกงปกติที่ประกอบด้วยกระเทียม ,พริกแห้ง ,ข่าหั่นแว่น ,รากผักชีและเม็ดผักชีโขลกให้เข้ากัน ใส่กะปิ ปลาร้าสับแล้วนำลงผัดในน้ำมัน(ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลสูตรเครื่องแกงบางส่วนจากหนังสือ “นายรอบรู้” สำนักพิมพ์สารคดีครับ) ใส่เนื้อสัตว์(ส่วนใหญ่จะเป็นไก่)ตั้งไฟจนเดือดแล้วจึงใส่ผักพื้นบ้านชนิดต่างๆลงไป เช่น ใบแค ,ใบชะพลู ,ผักเผ็ด,ยอดชะอม ,ตำลึง ,มะเขือเปราะ ,หอมแยก เป็นต้นแต่สำหรับสูตรที่ร้านข้าวเม่าข้าวฟ่างนั้นจะใส่ผักตามฤดูกาลซึ่งวันที่เราไปรับประทานกันนี้ทางร้านใส่ผักคือ มะรุม ,ผักกูด ,ผักหวาน ,ถั่วพู ,ถั่วหวาน ,มะเขือเปราะและตบท้ายด้วยข้าวคั่วที่ขาดไม่ได้เป็นเครื่องแกง รสชาติอร่อยเด็ดเผ็ดน้อยๆพอหอมปากหอมคอ สำหรับไก่นา(ไก่บ้าน)ที่ใส่อยู่ในแกงนั้นขอยืนยันว่าเป็นไก่นาแน่นอนไม่โป้ปดมดเท็จเนื่องจากความหยุ่น ,หนึบและความหวานในเนื้อซึ่งต่างจากไก่ตอนที่เนื้อจะจืดชืดไม่ค่อยมีรสชาติ แต่หากนำไก่นาที่แก่เกินไปมาปรุงเนื้อจะเหนียวหนืดจนเคี้ยวไม่ค่อยออกส่วนไก่ที่ร้านข้าวเม่าข้าวฟ่างใช้นั้นทีมงานเราคิดว่าไม่ใช่ไก่แก่เนื่องจากความหยุ่นเหนียวที่กำลังเหมาะไม่มากไม่น้อยเกินไปใครที่ชอบรับประทานไก่นาไม่ควรที่จะพลาดอาหารรายการนี้อย่างยิ่งแต่หากใครที่ชอบไก่ตอนเนื้อเยอะไม่ติดกระดูกเหมือนไก่นาแล้วล่ะก็อาจผ่านอาหารรายการนี้ไปจะดีกว่า สำหรับราคาแกงแคไก่นาถ้วยนี้อยู่ที่ 80 บาทครับ

5.เมี่ยงข้าวเม่าปลาเมย นำใบมะกรูด ,ตะไคร้ ,หอมแดงมาหั่นให้เป็นฝอย คลุกเคล้ากับมะนาวซีกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ,ถั่วลิสง .ข้าวพอง ,เส้นหมี่ทอดกรอบ โรยหน้าด้วยปลาแม่น้ำเมยหั่นเป็นชิ้นเล็กๆชุบแป้งทอด รับประทานคู่กับใบชะพลูและน้ำราดสูตรเฉพาะของร้านข้าวเม่าข้าวฟ่าง อร่อยรสชาติสมุนไพรผสานกับปลาชุบแป้งทอดกรอบเต็มๆคำ แต่ทานไปไม่กี่คำความเคลิบเคลิ้มของทีมงานเราก็ต้องสะดุดหยุดลงเล็กน้อยเพราะพบว่าด้านหลังใบชะพลูซึ่งใช้ห่อเมี่ยงบางใบมีจุดเชื้อราดำๆอยู่(ด้านหน้าใบชะพลูดูสะอาดเรียบร้อยดี อาจเป็นไปได้ว่าคนล้างไม่ทันได้สังเกต)ทำให้ต้องทิ้งใบชะพลูไป 5 – 6 ใบ(ทางร้านให้ใบชะพลูห่อเมี่ยงมา 15 – 16 ใบโดยประมาณซึ่งหากไม่พบเชื้อราหลังใบชะพลูล่ะก็จินตนาการของทีมงานคงเตลิดเปิดเปิงไปด้วยความอร่อยของเมี่ยงแล้ว น่าเสียดายที่ทางร้านเกิดความผิดพลาดในจุดเล็กๆซึ่งควรจะให้ความสนใจอย่างยิ่งไป ทำให้คะแนนความสะอาดของร้านตกไปพอสมควรเลยทีเดียวเนื่องจากอาหารจานนี้ ส่วนราคาอาหารจานนี้นั้นอยู่ที่ 90 บาท

     สำหรับข้อสรุปของทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมต่อร้านข้าวเม่าข้าวฟ่างนั้นก็คือ ดีเยี่ยมเกือบจะสมบูรณ์แบบทั้งบรรยากาศ รสชาติอาหาร ความเหมาะสมของราคา เสียดายเพียงแค่ว่าไม่น่าจะมาตกม้าตายเรื่องใบชะพลูในเมี่ยงรสอร่อยจานสุดท้ายนี้เท่านั้นเองครับ แต่อย่างไรก็ตามร้านข้าวเม่าข้าวฟ่างนั้นก็เป็นร้านที่ทีมงานของเราลงมติว่าหากได้มาเยือน อ.แม่สอด จ.ตากอีกครั้งต้องหาโอกาศมาชิมอาหารรายการอื่นๆอีกอย่างแน่นอนครับ

การเดินทาง : ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 105 จาก อ.แม่สอดมุ่งสู่ อ.แม่ระมาด (กรุณาสังแกตแผนที่ให้ดีเพราะจะมีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 105 อีกเส้นหนึ่งมุ่งหน้าจาก อ.แม่สอดตรงไปสู่ อ.เมือง จ.ตาก หากขับไปตามเส้นที่มุ่งสู่ อ.เมืองจะไปคนละทิศกับร้านข้าวเม่าข้าวฟ่างเลยครับ) ตรงไปเรื่อยๆร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือเลยจากทางแยกเข้าทางหลวงไปไม่ไกลนักก่อนถึงป้อมตำรวจ หากขับรถเลยไปถึง รร.แม่ปะวิทยาแสดงว่าเลยร้านข้าวเม่าข้าวฟ่างมาพอสมควรแล้วครับ